Archive

Monthly Archives: March 2012

รูปที่1

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dendrobium oligophyllum   Gagnep.

ชื่อวงศ์ : ORCHIDACEAE

ลักษณะ : กล้วยไม้อิงอาศัย สูง 4-7 ซม. ลำต้นรูปคล้ายแท่ง ดินสอกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ซม. ใบ รูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 3-4 ซม. ดอก ออกตามข้อ จำนวน 1-2 ดอก กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาวอมเขียว กลีบปากสีขาว มีแต้มสีเขียวที่กลางกลีบ ดอกบานเต็มที่กว้าง 2 ซม. พบตามป่าดิบ ทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกออกดอกช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน

การกระจายพันธุ์ : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

รูปที่2

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ravenala madagascariensis   F.J. Gmel.

ชื่อวงศ์ : STERLITZIACEAE

ชื่ออื่นๆ : กล้วยฝรั่ง กล้วยลังกา กล้วยศาสนา Traveller’s Tree

ลักษณะ : ไม้ต้น ลำต้นตรงกลม มีข้อสั้นๆ คล้ายตาล สูงถึง 20 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่มากกว่าคล้ายใบกล้วย รูปใบขอบขนานเรียงเป็นสองทางสลับซ้ายขวาจนถึงยอด ทำให้มีลักษณะคล้ายพัดขนาดใหญ่ ก้านใบยาวและหุ้มลำต้นไว้ ดอกสีขาวออกเป็นช่อตามซอกใบ มีใบประดับแข็งๆ เป็นกาบคล้ายรูปเรือหุ้มช่อดอก โดยกาบนี้จะเรียงสลับกันซ้ายขวา เป็นช่อแบนๆ ดอกย่อยเป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีหลายดอกในแต่ละใบประดับ ผลเมล็ดแก่สีน้ำเงินเข้ม ขนาด 0.6-0.8 ซม.รูปทรงกลม

การกระจายพันธุ์ : เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเกาะมาดากัสคาร์ ขยายพันธุ์ด้วยหน่อและเมล็ด ขึ้นได้ดีในที่สูง 20-800 เมตร จากระดับน้ำทะเล

ประโยชน์ : นิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป กาบดอกแข็ง ใช้ทำเครื่องประดับและหัตถกรรมได้หลายชนิด

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Manilkara achras  Fosberg
วงศ์ : 
Sapotaceae 
ชื่อสามัญ :  
Spodilla 
ชื่ออื่น :  สวา
ลักษณะ:  เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นพุ่มทึบ กิ่งก้าน แตกออกรอบลำต้นเป็นชั้น ๆ ใบ เป็นใบเดี่ยว ท้องใบมีสีน้ำตาลอมเขียว มักออกเป็นกระจุก ตามปลายกิ่ง  ดอก ออกดอกเดี่ยว ตามง่ามกิ่ง กลีบรองดอกเรียงกัน เป็น 2 ชั้น กลีบดอกเชื่อมกันและยกตั้งขึ้น มี 6 กลีบ มีสีเหลืองนวล ผล เป็นรูปไข่ หรือรูปปลายข้างหนึ่งแหลมเล็กน้อย ผิวผลมีสีน้ำตาล ผลยังไม่สุกมียางสีขาว รสฝาด แข็ง เมื่อสุกจะนิ่ม หวาน ไม่มียาง มีเมล็ดรูปยาว รี ผิวสีดำฝังอยู่ในเนื้อ ผลละ 2-6 เมล็ด
ประโยชน์ : 
 ใช้เป็นอาหาร ผลสุก รับประทานเป็นผลไม้ ทำไวน์ และทำน้ำละมุด คุณค่าทาง โภชนาการ ผลละมุดสุก มีน้ำตาลสูง มีวิตามินเอและซี มีธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส และอื่น ๆ ละมุดดิบ มียางสีขาวเหมือนน้ำนม มีสารที่ชื่อว่า “gutto” มีชัน สารฝาดสมานและอื่น ๆ  ใช้เป็นยา ในฟิลิปปินส์ใช้ เปลือกของต้น ต้มดื่มแก้บิด ยาง ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิอย่า แรง เมล็ดเป็นยาบำรุง

ภาพ:แบดแมน.png

ห้างแบดแมน แอนด์ กำปะนี หรือ ห้างแบดแมน เป็นห้างขายของจากต่างประเทศ คล้ายๆ ห้างสรรพสินค้าในปัจจุบัน เป็นห้างฝรั่งตั้งขึ้นในสมัยต้นรัชกาลที่ ๕ ต่อมาเลิกห้างแล้วใช้เป็นตึกกรมโฆษณาการในสมัยประชาธิปไตย แล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็นกรมประชาสัมพันธ์ คนช่างคิดในแง่ตลกปนแสบๆ สันนิษฐานเอาเองว่า เพราะผู้คนชอบเรียกสั้นๆ ว่า ‘กรมโฆษฯ’ ในปัจจุบันนี้ (พ.ศ.๒๕๔๔) เป็นที่ขายสลากกินแบ่ง (กับ) รัฐบาล

ห้างแบดแมน เมื่อปลายสมัยรัชกาลที่ ๕        ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีนายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ เป็นที่รู้จักว่าเป็นพ่อค้าชาวอังกฤษ แต่จริงๆ แล้วเป็นชาวสกอต เข้ามาเมืองไทยในปีพ.ศ.2367 และเปิดห้างสรรพสินค้าต่างประเทศ โดยเช่าตึกสูงของสมเด็จพระยามหาประยุรวงศ์ หน้าวัดประยุรวงศาวาส ธนบุรี เป็นห้างสรรพสินค้า ขายทั้งผ้าฝรั่ง ผ้าแขก ยาฝรั่ง เช่น ควินิน ตอนหลังแอบขายยาฝิ่นอีกด้วย

คนไทยสมัยนั้นเรียกนายฮันเตอร์ว่า หันแตร ซึ่งนายหันแตรนี้ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงอาวุธวิเศษ ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ารายแรกในประเทศไทย และเปิดห้างในไทยได้ก่อนพ่อค้าชาวอังกฤษจริงๆ นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นคนที่ปั้นแฝดสยามอิน-จัน ให้โด่งดังไปทั่วโลก

ส่วนผลงานของนักธุรกิจชาวอังกฤษที่เข้ามาตั้งห้างสรรพสินค้าในไทย ก็คือนายหลุยส์ ที. เลียวโนเวนส์ ลูกชายของแหม่มแอนนา หญิงที่เข้ามาสอนภาษาอังกฤษให้พระบรมวงศานุวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีเรื่องราวปรากฏในหนังสือและภาพยนตร์เรื่อง แอนนากับพระเจ้ากรุงสยาม (Anna and the King) สำหรับนายหลุยส์นี้มาเปิดห้างชื่อ หลุยส์ ที. เลียวโนเวนส์ ที่สี่พระยา และยังเป็นเจ้าของกิจการอีกมากมาย

ด้านชาวอเมริกัน เข้ามาเปิดห้างสรรพสินค้าในสมัยรัชกาลที่ 4 จำนวนไม่น้อย ห้างแรกชื่อ จี.เอส.ปาร์กเกอร์ แอนด์ โก ตั้งเมื่อปีพ.ศ.2398 ต่อมาขยายกิจการออกไป เรียกชื่อใหม่ว่า ห้างปาร์กเกอร์ แอนด์ กูเดล มีนายกูเดล เป็นผู้จัดการ

ในปีพ.ศ.2400 มีอีกห้างหนึ่งแจ้งเกิดชื่อ ห้างดันน์แอนด์เกอร์เวย์ ภายหลังแยกกิจการไปทำโรง สีไฟแห่งแรกในเมืองไทย เรียกว่า อเมริกันสตีมไรซ์มิลล์ หรือโรงสีจักรเมืองอเมริกัน

ในสมัยรัชกาลที่ 5 นักธุรกิจชาวเดนมาร์ก นายเอช. เอ็น. แอนเดอร์เสนเจ้าของบริษัทเอช.เอ็น แอนเสน เข้ามาตั้งห้างสรรพสินค้า พร้อมกับเปิดโรงแรมโอเรียนเต็ลโฮเต็ล หรือที่เรารู้จักว่าโรงแรมโอเรียนเต็ลในปัจจุบัน โดยเปิดบริการเมื่อปี 2430

สำหรับห้างเก่าๆ ที่มีชื่อเสียงในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้แก่ ห้างแบดแมน ไม่ใช่มนุษย์ค้างคาวมา เปิด แต่ย่อจากจากชื่อเต็มว่าแฮร์รี เอ. แบดแมน แอนด์ โก เริ่มกิจการเมื่อปี 2422 อยู่แถวมุมกระทรวงมหาดไทย แต่ภายหลังย้ายมาอยู่ตึกเก่าของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ถนนราชดำเนินกลาง อีกสามห้างคือห้างแรมเซ เวกฟิลด์ แอนด์ กำปะนี และห้างเอช.อับดุลราฮิม เปิดในปี 2419 และห้างแบร์น ฮาร์ต กริมม์ เภสัชกรเยอรมัน เปิดตามมาในปี 2421 อยู่แถวปากคลองตลาด จบเรื่องราวด้วยประการฉะนี้

เป็นอาทิตย์ที่สว่างขึ้นฉาดฉาย
น่าเสียดายไม่อาจพบคืนสุขสันต์
แสงสีนวลส่องแสงของดวงจันทร์
ไม่อาจส่องถึงตะวันที่ห่างไกล
เมื่อรุ่งเช้าแสงมาจันทราหลบ
ยามบรรจบพลบค่ำก็พลันหาย
เหลือเพียงจันทร์บนฝืนฟ้าที่เดียวดาย
มีบ้างไหมได้บรรจบพบตะวัน

ฉันชอบเขียนกลอน ฉันชอบร้องเพลง

ชอบดนตรีที่บรรเลงแล้วให้ค้นหา…

ชอบทุกๆสิ่ง ที่ธรรมชาติ กำหนดมา

ชอบนับวันเวลาให้มันผ่านพ้นไป///

ฉันชอบดารา ฉันชอบนักร้อง

ชอบเสียงกลองที่กระหึ่มไม่หวั่นไหว

ชอบแสงแดด ชอบสายฝนอยู่ร่ำไป..

และเหนือสิ่งอื่นใด รู้มั้ย…”ฉันชอบเธอ”

ยามประกายแสงทองส่อง
งามเรืองผ่องนภา
ประเทืองผองมวลชีวา
ดังพรจากฟ้าเสกมาให้
ยามประกายแสงเดือนส่อง
ยามนวลผ่องฟ้าไกล
ชื่นชมสมดังดวงใจ
สบสุขสุดใสหทัยบาน
ยามค่ำลงโพล้เพล้ถ่ายเทประภา
ในเมื่อยามทิวาต่อราตรีกาล
มีแต่ความมืดมนอับจนดวงมาลย์
เหงาปานขาดใจ
แท้ที่จริงนั้นยามค่ำ
นำให้รื่นฤทัย
ค่ำลงแล้วราตรีใหม่
เคลื่อนมาพาใจให้ชื้นชื่นเชย
ยามรุ่งแสงทิวางาม
เรืองอร่ามวิไล
โลกเริงสำราญปานใด
หมู่มวลพันธุ์ไม้ดอกใบบาน
ครั้นเมื่อยามแสงเดือนส่อง
ราตรีผ่องสำราญ
หมู่ดาววับวามงามตระการ
โลกเป็นสถานชื่นบานใจ
ยามค่ำลงสลัวมืดมัวแสงสี
แสนเปลี่ยวในฤดูสุดที่อาลัย
มีแต่ความมืดมนอับจนดวงใจ
คอยคืนใหม่งาม
แท้ที่จริงนั้นยามค่ำ
นำยามเนื่องถึงยาม
ค่ำลงแล้วราตรีตาม
โลกยิ่งสุดงามสมความชื่นชม